การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ก่อนอื่นผู้ซื้อควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์หลัก หรือความต้องการในการใช้คอมพิวเตอร์ ในด้านต่าง ๆ ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง เนื่องจากงานต่าง ๆ จะมีส่วนสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้ออุปกรณ์ให้ตรงตามความต้องการ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ผู้ใช้ทั่วไปนิยมกำหนดรายละเอียด และเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการควบคุมงบประมาณในการซื้อได้อีกทางหนึ่งด้วย
เราอาจจำแนกคอมพิวเตอร์ออกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 3 ประเภท
1. คอมพิวเตอร์สำหรับงานเอกสาร และโปรแกรมเบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ในระดับนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในลักษณะงานทั่ว ๆ ไป เช่น การพิมพ์งาน การดูหนัง ฟังเพลง และการใช้อินเตอร์เนท ซึ่งงานเหล่านี้ ไม่ต้องการประสิทธิภาพของเครื่องที่มากนัก สามา
รถเลือกส่วนประกอบในระดับราคาประหยัด เช่น ใช้ CPU AMD Duron หรือ Intel Celeron ใช้ Mainboard แบบ VGA Sound onboard ใช้ RAM 256 MB และ Harddisk 40 GB แบบ ATA 100 จะทำให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ตามต้องการในระดับราคาเพียง หมื่นกว่าบาทเท่านั้น
2. คอมพิวเตอร์สำหรับความบันเทิง
คอมพิวเตอร์ในระดับนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ ในระดับคุณภาพเสียงแบบดิจิตอล หรือสำหรับเล่นเกมส์แบบ 3 มิติโดยเฉพาะ ซึ่งจะนิยมเลือกส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพในระดับปานกลาง แต่เน้นอุปกรณ์เฉพาะด้าน เช่น ใช้ CPU AMD Athlon XP หรือ Intel Pentium 4 ความเร็วปานกลาง แล้วเลือก VGA Card ที่ระดับความเร็วสูง เช่น NVIDIA FX6800 หรือ ATI Radeon X800 และเลือก ลำโพงในระดับ 5.1 Channel
3. คอมพิวเตอร์สำหรับงานระดับมืออาชีพ
คอมพิวเตอร์ในระดับนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานเฉพาะด้าน ในระดับมืออาชีพ เช่น วิศวกร สถาปนิกออกแบบอาคาร , Graphic Designer หรือต้องการตัดต่อภาพยนตร์ ซึ่งผู้ซื้อที่มีความต้องการในระดับนี้ มักจะมีงบประมาณในการเลือกซื้อที่มากเพียงพอ ในการเลือกซื้ออุปกรณ์ในระดับความเร็วสูงที่มีจำหน่ายอยู่ในขณะนั้น จอภาพขนาดใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์เฉพาะด้านตามที่ต้องการ จึงทำให้ราคานั้นอาจอยู่ในระดับหลายหมื่นบาท หรืออาจถึงระดับแสนบาทก็เป็นได้
ข้อคิดก่อนการเลือกซื้อ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จะมียี่ห้อ รุ่น ประสิทธิภาพ และราคาที่ต่าง ๆ กัน ผู้ซื้อสามารถพิจารณาเลือกซื้อได้ตามความต้องการ โดยทุกวันนี้เราสามารถหาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ได้โดยสะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้านคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในศูนย์ IT ต่าง ๆ หรือตามร้านคอมพิวเตอร์ในชุมชน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ บริษัทนำเข้าจะเป็นผู้ให้การรับประกันคุณภาพอีกทอดหนึ่ง การรับประกันนี้เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อมักให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็หมายรวมถึง บริการหลังการขายนั่นเอง โดยทั่วไป ผู้ซื้อจะพิจารณาผู้นำเข้าที่สามารถให้บริการได้รวดเร็ว ทั้งเรื่องข้อมูลสินค้า และระยะเวลาในการส่งซ่อม / เคลม ในกรณีที่สินค้ามีปัญหาระหว่างการใช้งาน และถ้ามีศูนย์บริการหลายแห่ง กระจายอยู่ในชุมชน และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจในบริการ และแสดงถึงความมั่นคงอีกส่วนหนึ่งด้วย
การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
ในกรณีที่ประกอบเครื่องเสร็จแล้ว แต่ไม่ขึ้นภาพ ให้ปฏิบัติดังนี้
1. เปิดแล้วกระแสไฟไม่เข้าเครื่อง
ในกรณีนี้ ดวงไฟสีเขียวด้านหน้าว่าจะไม่ติด และสังเกตพัดลม CPU และ Power Supply ด้านหลังจะไม่หมุน เช่นเดียวกัน ให้สังเกตปลั๊กไฟที่ต่อเข้าสู่ Power Supply ( ด้านหลังเคส ) ว่ามีไฟหรือไม่ และต่อแน่นหนาดีแล้วหรือไม่ จากนั้น สังเกตสวิตช์ ที่ตัว Power Supply ว่าเปิดแล้วหรือไม่ ( สับสวิตช์ไปที่เลข 1) จากนั้น ให้ลองกดสวิตช์ข้างหน้าเครื่องอีกครั้ง ถ้าหากยังเปิดไม่ติด ให้สังเกตส่วนของ Front Panel ที่มุมล่างขวาของ Mainboard ด้านในเครื่อง ดูแผนผังจากคู่มือในส่วน Power Switch อีกครั้ง แล้วตรวจสอบว่าต่อถูกต้องหรือไม่
2. กระแสไฟเข้าเครื่องแล้ว แต่มีเสียงสัญญาณ ร้องดังเป็นช่วง ๆ หรือไม่มีเสียงเลย
ให้ทำการปิดเครื่อง แล้วทำการถอด RAM และ VGA Card ออก แล้วใส่กลับเข้าไปให้แน่นหนา ตรวจสอบสายไฟสำหรับ CPU INTEL ( สายสีเหลือง - ดำ ) ว่าต่อแล้วหรือไม่ รวมถึง ความถูกต้องของสายไฟและสายแพต่าง ๆ
